วันที่ 1 สนามบินจ.อุดรฯ/ประตูชัย/พระธาตุหลวง/ถ้ำจัง/สนามบินเก่าวังเวียง/ตลาดเมืองวังเวียง
|
เช้า
|
รถตู้/รถบัส VIP ปรับอากาศ (ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกทัวร์) ไกด์บริษัทฯ รอรับคณะฯ ที่สนามบินนานาชาติ จ.อุดรฯ จากนั้นเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง จ.หนองคาย
|
09.00
|
บริการอาหารเช้าประเภท ขนมปัง, ไข่กระทะ หรือ ข้าวต้มหมู, กาแฟ-ชา-โอวัลตินในตัวเมืองหนองคาย (มื้อที่ 1) หลังอาหารเดินทางสู่ด่านชายแดน สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ไกด์ท้องถิ่น/เจ้าหน้าที่บริษัทฯ อำนวยความสะดวกเรื่องการทำเอกสารขาเข้าประเทศลาว
|
|
เที่ยวชม “เขื่อนน้ำงึม 1” เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าแห่งแรกของประเทศลาว ซึ่งในปัจจุบันมีการผลิตกระแสไฟฟ้าส่งมาขายให้แก่ภาคอีสานของไทย เที่ยวชมทัศนียภาพความงามรอบๆ ตัวเขื่อน ถ่ายภาพที่ระลึกกันอย่างจุใจ นอกจากนี้หากมองจากฝั่งออกไป จะมองเห็น “ดอนท้าว” และ “ดอนนาง” ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังนักโทษของลาวในปัจจุบัน คล้ายๆ กับเกาะตะรุเตาของไทยในอดีต
|
12.30
|
รับประทานอาหารกลางวันประเภทปลาสดๆ นานาชนิด ที่ร้านอาหารรสแซ่บบริเวณสันเขื่อน (มื้อที่ 2)
|
บ่าย
|
เดินทางสู่เมืองวังเวียง เมืองที่สงบและมีแม่น้ำซองไหลผ่าน ชมสายหมอกยามเช้าที่สวยที่สุด จนได้รับฉายาว่าเป็น “กุ้ยหลินแห่งประเทศลาว” ก่อนถึงตัวเมือง แวะถ่ายรูปที่แขวนสะพานสีส้มสด สัญลักษณ์ของเมืองวังเวียง ซึ่งเมื่อเดินข้ามสะพานไป จะเห็นภูเขาสูงตระหง่านตรงหน้าเป็นที่ตั้งของ “ถ้ำจัง” ซึ่งเป็นถ้ำเป็น นั่นคือเป็นถ้ำที่ยังมีหินงอกหินย้อยเกิดอยู่ตลอดเวลา นำคณะฯ กราบนมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์บริเวณเชิงเขา ซึ่งชาววังเวียงให้ความเคารพและเลื่อมใสศรัทธา
จากนั้นนำคณะฯ เช็คอินเข้าโรงแรมระดับมาตรฐาน 3 ดาว
พักผ่อนเที่ยวชม “สนามบินเก่าวังเวียง” ซึ่งเป็นสนามบินที่ใช้ในช่วงสงครามของลาว เดินเล่นถนนคนเดิน กับบรรยากาศสบายๆ ทีมงานฯ นำท่านเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืน
|
ค่ำ
|
บริการอาหารค่ำ (มื้อที่ 3) จากนั้นพักผ่อนเดินเล่นบริเวณตลาดของเมืองวังเวียงตามอัธยาศัย
|
วันที่ 2 หมู่บ้านผาตั้ง/หมู่บ้านผาหอม/หมู่บ้านกาสี/เมืองพูคูน/หมู่บ้านกิ่วกระจำ/น้ำตกตาดกวางซี/เที่ยวชมหลวงพระบางในยามค่ำคืนตามอัธยาศัย
|
05.00
|
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 4)
|
|
ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงพระบางซึ่งปัจจุบันองค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้หลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ระหว่างการเดินทางจะเห็นวิถีชีวิตของลาวที่แตกต่างกันคือ ชาวลาวเทิง และชาวลาวสูง การใช้ชีวิต ความป็นอยู่ และธรรมชาติที่สวยงาม ผ่านหมู่บ้านที่อยู่ในที่ราบและที่อาศัยบนเขาสูง กับอากาศเย็นสบาย แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่บริเวณ “หมู่บ้านบ้านผาตั้ง” ซึ่งเป็นมุมถ่ายรูปที่สวยที่สุดของเมืองวังเวียง
แวะที่ “หมู่บ้านผาหอม” ชมสินค้าประเภทของอาหารป่า, นกสีสวยหายากและน้ำมันนวดคลายกล้ามเนื้อคุณภาพดี ผลิตมาจากไขมันของตัวเลียงผา สัตว์ป่าที่ยังมีให้พบเห็นทั่วไปในป่าประเทศลาว
|
|
รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 5) ร้านอาหารรสเลิศ และเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดบนเส้นทางสาย 13 เหนือแห่งนี้
|
|
ตลอดการเดินทางไปหลวงพระบางไม่ลำบากเนื่องจากทีมงานได้ทำโปรแกรมแวะในจุดต่างๆ ดังนี้ ผาตั้ง ผาหอม กาสี พูคูน กิ่วกระจำ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างๆ กัน เพื่อชมความเป็นอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อผ่อนคลายยืดเส้นยืดสาย และทำธุรส่วนตัว ดังนั้นสบายใจได้ นอกจากนั้นช่วงการเดินทางเข้าหลวงพระบางยังได้เห็นป่าไม้และทิวทัศน์ที่สวยงามประกอบกับเขาหินปูนที่มีรูปร่างต่างๆ สวยงาม ประเทศลาวในวันนี้ยังสามารถรักษาธรรมชาติอันบริสุทธิ์ไว้ได้อย่างดี สวยงามสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน
เมื่อเข้าเขตเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง พาคณะ เดินทางไปชม “น้ำตกตาดกวางซี” ซึ่งหมายถึงกวางหนุ่ม น้ำตกนี้ตกจากเขาที่สูง 70 เมตรสามารถถ่ายภาพจากด้านหน้า ภาพที่ออกมาสวยงามเห็นน้ำตกเป็นฉากด้านหลัง
|
|
เช็คอิน โรงแรมระดับมาตราฐาน 3 ดาว
รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 6) หลังมื้ออาหาร ส่งกลับยังโรงแรม-ที่พัก อิสระท่องราตรีกันตามอัธยาศัย
|
วันที่ 3 ตักบาตรข้าวเหนียว/ตลาดเช้าท่าเรือเมล์/ชิมกาแฟลาวรสเลิศ/วัดใหม่/พระราชวังหลวงพระบาง/วัดแสน/วัดเชียงทอง/หมู่บ้านช่างไห/ล่องเรือชมถ้ำติ่ง/หมู่บ้านผานม/วัดป่ารวก/พระธาตุพูสี/ตลาดกลางคืน
|
05.00
|
ตื่นเช้าสัมผัสอากาศบริสุทธ์เมืองหลวงพระบาง ได้ยินกลองรัวดังกังวาลไปทั่วทั้งตัวเมือง ถือเป็นสัญญาณบุญ นำท่านไปร่วม “ทำบุญตักบาตรข้าวเหนียว” แด่พระสงฆ์จำนวนนับร้อยๆ รูปเดินเรียงรายอยู่บริเวณกลางเมือง (ค่าทำบุญฯ ไม่รวมในรายการ เพราะอยากให้ท่านทำบุญตามความศรัทธามากกว่าจ้า) นำชม “ตลาดเช้าท่าเรือเมล์” ที่ชาวหลวงพระบางจะมาจับจ่ายซื้อของใช้ ชมวิถีชีวิตคนหลวงพระบางยามเช้า
|
|
รับประทานอาหารเช้าที่ “ร้านกาแฟลาว” (มื้อที่ 7) ซึ่งชื่อของร้าน ถือเป็นการบ่งบอกอยู่แล้วว่ามีจุดเด่นอยู่ที่ กาแฟลาวชงแบบโบราณรสเลิศ เปิดบริการชาวเมืองหลวงพระบางมาแล้วนับ 10 ปี นอกจากนี้ท่านยังสามารถเลือกชิม เฝอหมู-เนื้อเวียดนาม, ข้าวซอยหลวงพระบาง, ชา-กาแฟ, โอวัลตินได้ตามชอบ
|
|
นำชมภาพปูนปั้นบริเวณด้านหน้าอุโบสถที่สวยงามของ “วัดใหม่สุวรรณภูมราม” ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดที่จะอัญเชิญ “พระบาง” พระคู่บ้านคู่เมืองมาประดิษฐานไว้ในช่วงงานบุญสงกรานต์ เป็นวัดที่มีศิลปล้านช้างที่สวยงาม จากนั้นนำคณะฯ สักการะเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชนชาวลาว
เข้าชม “พระราชวังเจ้ามหาชีวิตลาว” ซึ่งในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปเป็น “หอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง” นมัสการพระบาง พระคู่บ้านคู่เมือง ของลาว ด้านในเป็นที่จัดแสดงห้องบรรทม ห้องต่างๆ ซึ่งในแต่ละส่วนถูกจัดแสดงไว้อย่างสวยงาม
ชม “วัดแสนสุขาราม” วัดที่มีศิลปของล้านช้างดูได้จากหลังคาและศิลปของพระซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนที่ชาวหลวงพระบางให้ความศรัทธา
จากนั้นนำชม “วัดเชียงทอง” วัดที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ทั่วโลกให้เป็น “สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมของราชอาณาจักรล้านช้าง” เที่ยวชมและนมัสการพระประธานเพื่อความเป็นศิริมงคล
|
12.00
|
บริการอาหารกลางวันในตัวเมือง/หรือร้านอาหารเรือนแพ (มื้อที่ 8)
|
13.00
|
เดินทางขึ้นไปทางเหนือออกนอกตัวเมืองเพื่อเที่ยวชมชมกรรมวิธีการต้มเหล้าพื้นบ้านที่ “หมู่บ้านช่างไห” ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ค้นพบเครื่องใช้ในสมัยโบราณ และปัจจุบันเป็นแหล่งต้มเหล้าชั้นดี ของหลวงพระบาง
นำท่านล่องเรือเพื่อไปเที่ยวไปชม “ถ้ำติ่ง” ระหว่างเดินทางจะเห็นวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งโขงที่ผูกพันธ์กับสายน้ำแห่งนี้ จากนั้นเข้าชมถ้ำติ่งล่าง และถ้ำติ่งบนที่มีความสวยงามตั้งอยู่ริมน้ำโขง เมื่อเข้าไปในถ้ำจะเห็นพระพุทธรูปเป็นพันๆ องค์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อ-ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวหลวงพระบางอย่างไม่เสื่อมคลาย
เดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมือง ชมการทอผ้าทอมือแบบโบราณ ที่ “หมู่บ้านผานม” ที่ปัจจุบันหาชมได้ยาก การทอผ้าโดยใช้กี่กระตุกเป็นภูมิปัญญาของลาวในการทอผ้าเนื้อดี
นำท่านชม “วัดป่ารวก” วัดหนึ่งเดียวในหลวงพระบาง ที่สันนิษฐานว่าสร้างโดยรัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรีของไทย ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาทางขึ้นพระธาตุพูสี จากนั้นนำคณะเดินขึ้นบันได 328 ขั้น เพื่อนมัสการ “พระธาตุพูสี” พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมจิตใจของชาวหลวงพระบาง เมื่อเราขึ้นสู่จุดสูงสุดสามารถมองเห็นตัวเมืองหลวงพระบางในแบบพาโนราม่า ถ่ายรูป “พระอาทิตย์ตกเขา” กันแบบจุใจ
|
|
บริการอาหารค่ำที่ร้านอาหารรสเลิศในตัวเมือง (มื้อที่ 9)
นำชม “ตลาดกลางคืน” หรือ “ถนนคนเดินหลวงพระบาง” ที่มีสินค้าพื้นเมืองของชาวหลวงพระบางราคาถูก เช่น เสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว, ผ้าคลุมเตียง, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋าถือสุภาพสตรี, กระเป๋าใส่เศษเหรียญ เครื่องประดับ, ของตกแต่งบ้าน, ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ ให้ท่านเลือกชม-เลือกซื้อตามอัธยาศัยกันอย่างจุใจ จากนั้นส่งยังโรงแรม-ที่พัก พักผ่อนอิสระตามอัธยาศัย
|
วันที่ 4 หมู่บ้านกิ่วกระจำ/เมืองพูคูน/เมืองวังเวียง/ตลาดเช้า/ศาลหลักเมือง เวียงจันทน์/วัดเจ้าแม่สีเมือง/ ร้านสินค้าปลอดภาษี
|
04.00
|
อำลาเมืองหลวงพระบางออกเดินทางสู่หมู่บ้านกิ่วกระจำพร้อมรับประทานอาหารเช้า (ข้าวต้ม, กาแฟ, ชา) (มื้อที่ 10) ระหว่างการเดินทางจะพบทิวทัศน์ บางช่วงอาจพบทะเลหมอกที่สวยงาม แวะทำธุระส่วนตัวที่เมืองพูคูน สูดอากาศยามเช้า ชมวิถีชีวิตยามเช้าของชาวลาวสูง ชมตลาดผัก-ผลไม้สดๆ ของชาวบ้าน
|
|
บริการอาหารกลางวันที่เมืองกาสี/หรือเมืองวังเวียง (มื้อที่ 11)
|
ช่วงบ่าย
|
พาคณะฯ เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ นมัสการ “พระธาตุหลวง” ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้าน-คู่เมือง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของนครเวียงจันทน์ชมศิลปะสิมหรืออุโบสถแบบล้านช้าง เข้าชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ถ่ายรูปและเลือกชมสินค้าพื้นเมืองที่แม่ค้าชาวลาวนำมาจำหน่าย
จากนั้นนำท่านไปท่องเที่ยวที่ “ประตูชัย” สัญลักษณ์ของชัยชนะและอธิปไตยของลาวและแวะช็อปปิ้งที่ “ร้านจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี” ที่ด่านสะพานมิตรภาพฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารขาออกประเทศลาว บริการอาหารเย็นระหว่างการเดินทาง (คณะทัวร์จ่ายเอง ไม่รวมในรายการ)
ส่งคณะฯ ที่สนามบินนานาชาติ จ.อุดรฯ โดยสวัสดิภาพ (โปรแกรมช่วงบ่าย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเวลาเป็นสำคัญ หากทำเวลาได้ดีรับรองได้ไปครบทุกแห่งแน่นอนจ้า)
|